
วิธีเล่นหวยใต้ดิน
ในการซื้อหวยใต้ดิน มีความคล้ายกับหวยรัฐบาล สามารถเลือก หมายเลขที่ต้องการซื้อ จำนวนที่ต้องการ ในราคาเท่าไร ในปัจจุบัน ผู้ขาย หรือเจ้ามือ มีการขยายช่องทางต่างๆ ก็สามารถซื้อหวยใต้ดินได้ เช่น เว็บไซต์ออนไลน์ เป็นต้น
การออกรางวัล หวยใต้ดิน
การออกรางวัลของหวยใต้ดินนั้น จะอิงกับการออกรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาลของไทย โดยจะออกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน ถ้าตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดสำคัญ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็จะเลื่อนวันออกหวยไปเป็นวันอื่นแทน หรือสามารถติดตามได้จากเว็บ www.ssslotto.com
ประเภทของหวยใต้ดิน
สำหรับหวยใต้ดินวิธีการเล่นที่ได้รับนิยมกันอย่างแพร่หลาย หลักๆ อยู่ 3 รูปแบบ ซึ่งมีดังนี้
1. รางวัลเลข 2 ตัว
รางวัลเลข 2 ตัวของการเล่นหวยใต้ดิน จะแบ่งการเล่นได้อีก 2 แบบนั่นคือ เลขท้าย 2 ตัวบน และ ล่าง
รางวัลเลข 2 ตัวล่าง (59)
ใช้รางวัลเลขท้ายสองตัวของสลากกินแบ่งรัฐบาล มาเป็นเลขอ้างอิง เช่น ในงวดของวันที่ 1 ตุลาคม 2563 โดยรางวัลเลขท้าย 2 ตัว คือ 59 หากคุณซื้อแบบเลขท้ายสองตัวล่าง ก็ถือว่าถูกรางวัลก็นำจำนวนบาทของราคาหวยไปคูณจำนวนเงินที่ซื้อไป
ตัวอย่าง เจ้ามือหวยออนไลน์ที่ให้ผลตอบแทนบาทละ 90 ซึ่งถ้าหากคุณซื้อเลข 59 แบบ 2 ตัวล่าง ในราคา 10 บาท ก็จะได้เงินรางวัล 90×10 = 900 บาท แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็จ่ายเจ้ามือ 10 บาท
รางวัลเลข 2 ตัวบน (93)
สำหรับเลข 2 ตัวบน ก็ใช้เลข 2 ตัวสุดท้ายของรางวัลที่ 1 มาเป็นเลขอ้างอิงผลรางวัล ซึ่งจากงวดของวันที่ 1 ตุลาคม 2563 รางวัลที่ 1 คือ 837893 ซึ่ง 2 ตัวบนคือ 93
ตัวอย่าง เจ้ามือหวยที่ให้ผลตอบแทนบาทละ 90 ซึ่งถ้าหากคุณซื้อเลข 93 แบบ 2 ตัวบน ในราคา 30 บาท ก็จะได้เงินรางวัล 90×30 = 2,700 บาท แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็จ่ายเจ้ามือ 30 บาท
เทคนิคสำคัญ
การซื้อหวยใต้ดินแบบ 2 ตัวกับเจ้ามือ ต้องระบุให้ชัดเจน ว่าจะซื้อแบบ 2 ตัวบน หรือ 2 ตัวล่าง หรือจะซื้อทั้ง 2 แบบก็ได้ เพราะถ้าไม่ระบุชัดเจนอาจจะถูกปฏิเสธการจ่ายเงินได้หากถูกรางวัล
2. รางวัลเลข 3 ตัว
การเดิมพันในเลข 3 ตัวนั้น มีโอกาสที่จะชนะการเดิมพันน้อยกว่าแบบ 2 ตัว แต่ถ้าชนะการเดิมพันแล้ว ก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหลายเท่า โดยการเดิมพันในเลข 3 ตัวนั้น ก็สามารถเดิมพันได้หลายวิธี ได้แก่
เลขหน้า 3 ตัว หรือสามตัวหน้า (127/220)
รางวัลเลข 3 ตัวหน้าก็ถูกนำมาเป็นรางวัลในหวยใต้ดินเหมือนกัน โดยถ้าถูกเลขใดเลขหนึ่งก็คูณจำนวนบาทของราคาหวยกับเงินที่ซื้อไปก็จะได้เป็นเงินรางวัล
เช่น เจ้ามือหวยที่ให้ผลตอบแทนบาทละ 450 ซึ่งถ้าหากคุณซื้อเลข 127 แบบ 3 ตัวหน้า ในราคา 30 บาท ก็จะได้เงินรางวัล 450×30 = 13,500 บาท แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็จ่ายเจ้ามือ 30 บาท
เลขท้าย 3 ตัว หรือสามตัวล่าง (623/853)
รางวัลเลข 3 ตัวท้ายก็สามารถแทงหวยใต้ดินได้เช่นเดียวกัน โดยถ้าถูกเลขใดเลขหนึ่งก็คูณจำนวนบาทของราคาหวยกับเงินที่ซื้อไปก็จะได้เป็นเงินรางวัล
เช่น เจ้ามือหวยที่ให้ผลตอบแทนบาทละ 450 ซึ่งถ้าหากคุณซื้อเลข 623 แบบเลขท้าย 3 ตัว ในราคา 50 บาท ก็จะได้เงินรางวัล 450×50 = 22,500 บาท แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็จ่ายเจ้ามือ 50 บาท
เลขสามตัวบน (083)
ใช้เลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 ซึ่งมีเฉพาะในหวยใต้ดินเท่านั้น และเป็นเลขที่ยอดฮิตที่คอหวยหลายคนต้องซื้อทุกงวด เพราะผลตอบแทนสูงที่สุด
เช่น เจ้ามือหวยที่ให้ผลตอบแทนบาทละ 900 ซึ่งถ้าหากคุณซื้อเลข 083 แบบเลขสามตัวบน ในราคา 100 บาท ก็จะได้เงินรางวัล 900×100 = 90,000 บาท แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็จ่ายเจ้ามือ 100 บาท
สามตัวโต๊ด (กลับเลข 083)
เลขสามตัวโต๊ด เป็นการเอาเลขท้าย 3 ตัวบนมาซื้อแบบกลับทุกตำแหน่ง ทำให้โอกาสที่จะถูกในเลขโต๊ดนั้นก็จะมีอากาสสูงมากกว่าสามตัวตรง(เต็ง) ซึ่งหากมีโอกาสถูกมากขึ้นราคาต่อบาทก็จะน้อยลงตาม
เช่น เจ้ามือหวยที่ให้ผลตอบแทนบาทละ 120 ซึ่งถ้าหากคุณซื้อเลข 830 / 803 / 308 / 380 / 038 แบบเลขสามตัวโต๊ด ในราคา 100 บาท ก็จะได้เงินรางวัล 120×100 = 12,000 บาท แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็จ่ายเจ้ามือ 100 บาท
3. เลขวิ่ง
นอกจากการเล่นในรางวัลเลข 2 ตัวและ 3 ตัว แล้ว ยังสามารถเล่นเลขวิ่งได้อีก เป็นการเลือกตัวเลขมา 1 ตัวเพื่อทำการวิ่ง ซึ่งหากในงวดนั้นออกรางวัลแล้วมีเลขที่คุณเลือกวิ่งก็จะได้รางวัลไปได้ง่ายๆ แบ่งเป็น
เลขวิ่งบน คือการเลือกตัวเลขมาวิ่งในรางวัลเลขท้ายสามตัว เช่น ในงวดของวันที่ 16 สิงหาคม 2563 เลขท้าย 3 ตัวคือ 811 หากเลือกเดิมพันในเลขวิ่ง 8 หรือ 1 ก็คือถูกรางวัล โดยราคาต่อบาทอยู่ที่ประมาณบาทละ 3.2